Page 14 - สวัสดีครับท่านผู้อ่านทุกท่าน ก่อนอื่นกระผมขอแนะนำตัวก่อนครับ กระผม พันเอก กัญจน์ณัฎฐ์ นิลนนท์ รับหน้าที่เป็นบรรณาธิการสวัสดิการสารแทน พันเอก สมเกียรติ ถนอมคุ้ม ผู้อำนวยการกองกิจการรร้านสวัสดิการกลาง กรมสวัสดิการทหารบก เนื่องจากท่านมีภารกิจที่มากขึ้น ผู้บังคับบัญชา จึงมอบหมายให้กระผมมารับหน้าที่ต่อจากท่าน แต่ไม่ต้องกังวลครับเพราะว่าหนังสือสวัสดิการสารของเรายังคงมีเนื้อหาสาระน่ารู้ต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อท่านสมาชิกเช่นเดิม และถ้าสมาชิกท่านใดอยากแนะนำติชม หรือต้องการให้นำเสนอเรื่องใด สามารถแนะนำมาได้ครับ สุดท้ายนี้กองบรรณาธิการสวัสดิการสารขอขอบคุณทุกหน่วยที่ให้การสนับสนุนข้อมูล และภาพถ่ายทำให้หนังสือสวัสดิการสารมีความสมบูรณ์ครบถ้วนทั้งเนื้อหาสาระ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าท่านผู้อ่านจะได้รับความรู้ พร้อมทั้งความบันเทิงจากหนังสือสวัสดิการสารฉบับนี้ครับ
P. 14
1. กรมธรรม์แบบ “ภัยสงคราม” เป็นการด าเนินการในปีที่ 39 ให้ความคุ้มครองแก่ก าลังพลของ
กองทัพบกที่ได้รับค าสั่งให้มีหน้าที่ในการปฏิบัติราชการสนาม เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยทั้งภายในและภายนอก
ประเทศตามแผน หรือค าสั่งที่กองทัพบก และ/หรือ กระทรวงกลาโหมก าหนด หรือสั่งการ ใช้ก าลังการปฏิบัติการ
ตามแผน หรือค าสั่งใน สายงานกองอ านวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร รวมทั้งก าลังพลที่ปฏิบัติงาน
ในหน่วยที่มี ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่เสี่ยงอันตราย แล้วได้รับอันตรายในระหว่างปฏิบัติหน้าที่จนถึงแก่ความตาย หรือพิการ
ทุพพลภาพ จนต้องปลดออกจากประจ าการ ที่ผลการสอบสวนระบุว่าเกิดจากการกระท าของข้าศึก ศัตรู หรือกลุ่มผู้
ก่อเหตุรุนแรง
1.1 เริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 1 เมษายน 2568 ถึง 31 มีนาคม 2569
1.2 วงเงินเบี้ยประกัน จ านวน 8 ล้านบาท
1.3 บริษัทฯ จ่ายค่าสินไหมทดแทน ให้กับก าลังพลของกองทัพบก เท่ากันทุกชั้นยศ รายละ
800,000.- บาท
2. กรมธรรม์แบบ “พิทักษ์พล” เป็นการด าเนินการในปีที่ 34 ให้ความคุ้มครองแก่ก าลังพลของ
กองทัพบกที่ได้รับอันตรายหรือเจ็บป่วย จนถึงแก่ความตาย หรือพิการทุพพลภาพจน เป็นเหตุให้ต้องถูกปลดออก
จากประจ าการ หรือเลิกจ้าง หรือถูกปลดออกจากกองประจ าการ หรือถูกปลดพ้นสภาพความเป็นนักเรียนทหาร
จากสาเหตุการปฏิบัติงาน การฝึก ศึกษา ทางธุรการ และอื่น ๆ
2.1 เริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 1 เมษายน 2568 ถึง 31 มีนาคม 2569
2.2 วงเงินเบี้ยประกัน จ านวน 26 ล้านบาท
2.3 บริษัทฯ จ่ายค่าสินไหมทดแทน ให้กับก าลังพลของกองทัพบก เท่ากันทุกชั้นยศ ดังนี้
2.3.1 กรณีปฏิบัติงาน, การฝึก, ศึกษา, ทางธุรการ และอื่น ๆ รายละ 60,000.- บาท
2.3.2 กรณีปฏิบัติหน้าที่การฝึก, ปฏิบัติหน้าที่ด้วยการใช้อากาศยานของราชการ, ปฏิบัติ
หน้าที่ส าคัญ และเสี่ยงภัย รายละ 300,000.- บาท
ส าหรับโครงการประกันชีวิตทหาร เริ่มด าเนินการเมื่อ พ.ศ. 2530 โดย พลเอก ชวลิต ยงใจยุทธ
ผู้บัญชาการทหารบก ในขณะนั้น ได้ตระหนักถึงความเหนื่อยยาก เสียสละของก าลังพลที่ออกปฏิบัติราชการสนาม
จึงได้สั่งการให้จัดท าโครงการประกันชีวิตทหารขึ้น โดยได้ตกลงท าสัญญากับบริษัท ไทยประกันชีวิต จ ากัด (มหาชน)
ในสัญญากรมธรรม์แบบ “ภัยสงคราม” เพื่อเป็นสวัสดิการ และเป็นขวัญก าลังใจให้ก าลังพลเหล่านั้น เป็นการ
แสดงออกถึงความห่วงใยของผู้บังคับบัญชา และเป็นหลักประกันความมั่นคงในชีวิตรับราชการ
จากการด าเนินโครงการประกันชีวิตทหาร แบบ “ภัยสงคราม” ประสบความส าเร็จอย่างดียิ่ง ในปี
พ.ศ. 2535 กองทัพบกจึงมีการขยายขอบเขตการประกันชีวิตให้ครอบคลุมถึงข้าราชการ, นักเรียนทหาร, ลูกจ้าง,
อาสาสมัครทหารพราน และทหารกองประจ าการ ที่ปฏิบัติหน้าที่ในยามเวลาปกติ จึงได้ตกลงท าสัญญากรมธรรม์
แบบ “พิทักษ์พล” ซึ่งประสบความส าเร็จอย่างดียิ่ง
--------------------------------------
ที่มา : แผนกโครงการ กองแผนและโครงการ กรมสวัสดิการทหารบก
ผู้น าเสนอ : ร้อยเอกหญิง พิมพ์ชนก จันทรฆาฏฐ
สวัสดิการสาร เ เ เมษายน 2568 14